Audio/อัน-ซาบูร
 
 
 
 
 
 

ในความถูกต้องที่สมเหตุผลของคัมภีร์ไบเบิ้ลนั้น  ไม่มีสักประโยค   หรือคำหนึ่งที่กล่าวพาดพิงถึงท่านนบีมูฮัมมัด (ซ.ล.) อิสลามทุกคนมีความหวังว่าน่าจะมีชื่อมูฮัมมัดปรากฏอยู่ในคัมภีร์ของยิว หรือ คริสต์

ซูเราะฮ์อัลอะอ์รอฟ  อายะฮ์ที่   157



คือบรรดาผู้ปฏิบัติตามร่อซู้ล  (มูฮัมมัด)  ผู้เป็นนบีที่เขียนอ่านไม่เป็นที่พวกเขา  (ยะฮูดี และนัศรอนีย์) พบเขาถูกจารึกไว้ ณ ที่พวกเขา ทั้งในอัตเตาร็อต และในอัลอินญีล โดยที่เขา (มูฮัมมัด)    จะใช้พวกเขาให้กระทำในสิ่งที่ชอบ    และห้ามพวกเขามิให้กระทำในสิ่งที่ไม่ชอบ   และขออนุมัติให้แก่พวกเขาซึ่งสิ่งดีๆ  ทั้งหลาย      และจะให้เป็นที่ต้องห้ามแก่พวกเขา      ซึ่งสิ่งที่เลวร้ายทั้งหลาย  และจะปลดเปลื้องออกจากพวกเขา   ซึ่งภาระหนักของพวกเขา   และห่วงคอ     (บัญญัติศาสนาที่กำหนด) ที่ปรากฏอยู่บนพวกเขา ดังนั้นบรรดาผู้ที่ศรัทธาต่อเขา และให้ความสำคัญแก่เขาและช่วยเหลือเขา    และปฏิบัติตามแสงสว่างที่ถูกประทานลงมาแก่เขาแล้วไซร้    ชนเหล่านี้แหละคือบรรดาผู้ที่สำเร็จ

ซูเราะฮ์อัศศ็อฟ  อายะฮ์ที่  6

และจงรำลึกเมื่ออีซา อิบนุ มัรยัม ได้กล่าวว่า โอ้วงศ์วานของอิสราเอลเอ๋ย แท้จริงฉันเป็นร่อซู้ลของอัลลอฮ์มายังพวกท่าน เป็นผู้ยืนยันสิ่งที่มีอยู่ในเตาร็อต ก่อนหน้าฉัน และเป็นผู้แจ้งข่าวดีถึงร่อซู้ลคนหนึ่ง ผู้จะมาภายหลังฉัน ชื่อของเขาคือ   “อะฮ์หมัด”   ครั้นเมื่อเขา  (อะฮ์หมัด)   ได้มายังพวกท่านพร้อมด้วยหลักฐานอันชัดแจ้งแล้ว  พวกท่านกล่าวว่านี่คือมายากลแท้ๆ

พี่น้องมุสลิมจำนวนไม่น้อยที่รู้. . . . . .ได้ศึกษาค้นคว้าต้นฉบับของไบเบิ้ล หลังจากพ้นสมัยของท่านนบีมูฮัมมัด   เพราะฉะนั้นที่กล่าวว่าไบเบิ้ลเปลี่ยนแปลงโยกย้ายถ่ายโอนชื่อของท่านนบีมูฮัมมัดนั้นจึงไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด  แต่พวกเขาก็พยายามค้นคว้ากันต่อไป  ไม่มีการกล่าวถึงชื่อของมูฮัมมัด  จุดนี้เองที่ทำให้มุสลิมเกิดความสงสัยเช่นกัน   ดังนั้นเพื่อเป็นการยืนยันถึงชื่อของท่านนบีมูฮัมมัด และพันธกิจต่อมวลมนุษยชาติ   การที่รวมผู้ที่ติดตามท่านอีซาเข้ามาด้วยจะทำให้อิสลามสมบูรณ์ที่สุด ในอัลกุรอ่านที่ยกมานี้  ท่านอีซายังได้กล่าวกับสาวกของท่านถึงการมาของ  “อะฮ์หมัด”   นักศาสนศาสตร์ของอิสลามท่านหนึ่งได้ค้นคว้าหาชื่อมูฮัมมัดในไบเบิ้ล ซึ่งชื่อนั้นมีปรากฏใน คัมภีร์อินญีล  ฉบับของยะฮ์ยา เกี่ยวกับวิญญาณบริสุทธิ์ในความเป็นร่อซู้ลของท่านศาสดามูฮัมมัด บทที่ 14 ข้อ 16  บทที่ 15 ข้อ 26 บทที่ 16 ข้อ 7
เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่าน เพื่อจะได้อยู่กับท่านตลอดไป. . . . . . แต่เมื่อองค์พระผู้ช่วยที่เราจะใช้มา  จากพระบิดาหาท่านทั้งหลาย คือพระวิญญาณแห่งความจริง  ผู้ทรงมาจากพระบิดานั้นได้เสด็จมาแล้ว พระองค์ก็จะทรงเป็นพยานให้แก่เรา. . . . . อย่างไรก็ตามเราจะบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลาย คือการที่เราจากไปนั้น     ก็เพื่อประโยชน์ของท่าน  เพราะถ้าเราไม่ไป องค์พระผู้ช่วยก็จะไม่เสด็จมาหาท่าน แต่ถ้าเราไปแล้ว เราก็จะใช้พระองค์มาหาท่าน

จากภาษากรีกซึ่งเป็นภาษาดั้งเดิม คำว่า  “PARAKLETOS”  ในคำเหล่านี้มีความหมายก็คือ “สมควรที่จะสรรเสริญ”  ซึ่งมุสลิมได้โต้แย้งว่ากรีกภาษาเดิมนั้นเขียนผิดพลาดไปจากคำเดิม ซึ่งคำเดิมนั้นควรจะเป็น“PERIKLUTOS” ซึ่งคำนี้แปลความหมายคือ  “อะฮ์หมัด”   หมายถึง  “ผู้ได้คืน” “ผู้นำความผาสุก”“ผู้ว่าความ”  “ที่ปรึกษา”  จากคำว่า  “อะฮ์หมัด”  หรือ  “มูฮัมมัด” มีความหมายที่ต่างกัน แต่ชื่อมูฮัมมัดคือชื่อที่ถูกต้อง หมายถึง “ผู้ซึ่งน่าสรรเสริญ” ส่วนคำว่า  “อะฮ์หมัด”     หมายถึง    “สมควรที่จะสรรเสริญ”      ดังนั้นคำว่า   “อะฮ์หมัด”ไม่ได้ใช้เป็นชื่อเฉพาะมาก่อนที่ท่านนบีมูฮัมมัดจะมาเกิด  นี่คือเหตุผลว่าเหตุใดเราจึงไม่พบชื่อ  “อะฮ์หมัด”   ปรากฏในอัลกุรอ่าน แต่เราพบชื่อ   “มูฮัมมัด”ซึ่งเป็นชื่อถูกต้อง  จากยะฮ์ยาที่ยกมาได้กล่าวถึงคำว่า  “PARAKLETOS”   คือวิญญาณแห่งความจริง  ซึ่งโลกนี้ไม่สามารถพบเห็นได้   แต่ว่าได้สถิตย์อยู่ในใจของผู้เชื่อและจะเป็นพยานถึงท่านอีซา วิญญาณนี้เสมือนหนึ่งผู้ซึ่งท่านอีซาได้บอกกับสาวกของท่านว่า  “แต่ท่านทั้งหลาย จะได้รับพระราชทานฤทธิ์เดชเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเสด็จมาเหนือท่าน  และท่านทั้งหลายจะเป็นพยานฝ่ายเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย  แคว้นสะมาเรีย  และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”  มีปรากฏในอินญีล กิจการของอัครทูต บทที่ 1 ข้อ 8
ประมาณ  50  วันหลังจากที่พระเจ้าได้รับท่านอีซาไป   สัญญาแห่งวิญญาณบริสุทธิ์ก็เติมเต็มในชีวิตของสาวกของท่าน    เรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นใน วันเพ็นเทคอสต์  ผู้ที่บันทึกเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่นี้คือ เปโตร สาวกผู้หนึ่งที่ได้ติดตามท่านอีซา ”มีปรากฏในอินญีล กิจการของอัครทูต บทที่ 2 ข้อ 32-33
อีซานี้พระเจ้าได้ทรงบันดาลให้ชีวิตกลับคืนแล้ว      ข้าพเจ้าทั้งหลายเป็นพยานในข้อนี้เหตุฉะนั้นเมื่อทรงเชิดชูท่านขึ้นอยู่ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระเจ้า  และครั้นที่ท่านได้รับวิญญาณบริสุทธิ์ จากพระบิดาตามพระสัญญา  ท่านอีซาได้เทฤทธิ์เดชลงมา  ดังที่ท่านทั้งหลายได้ยิน  และได้เห็นแล้ว

              จากคัมภีร์ตอนนี้ความหมายของคำว่า  “PARAKLETOS”   คือ วิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าไม่เคยสถิตย์อยู่กับมนุษย์ผู้ใด ยิ่งกว่านั้น “PARAKLETOS”   นี้ท่านอีซายังได้บอกกล่าวกับสาวกว่า พระบิดาสัญญาจะประทานให้ในขณะที่พวกสาวกยังมีชีวิตอยู่ . . . . หลังจากที่บรรดาสาวกของท่านอีซาเสียชีวิตลงห่างกันกว่า 500ปี ท่านนบีมูฮัมมัดจึงมาเกิด มุสลิมจึงต้องค้นคว้าให้ละเอียดในคัมภีร์เตาร็อต ที่ทรงประทานให้กับนบีมูซา เป็นไปได้ที่จะพบหลักฐานเกี่ยวกับท่านนบีมูฮัมมัดดังที่พบใน เตาร็อตเฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 18 ข้อ 15 ว่า
พระเยโฮวาฮ์ พระเจ้าของท่านจะโปรดให้ผู้เผยพระวจนะ อย่างข้าพเจ้านี้เกิดขึ้นในหมู่พวกท่าน   จากพี่น้องของท่าน  ท่านทั้งหลายจงเชื่อฟังเขา

มุสลิมส่วนมากเชื่อกันว่าเมื่อสิ้นยุคของนบีมูซาแล้ว      นบีคนต่อไปที่มีคุณสมบัติเหมือนนบีมูซาก็คือนบีมูฮัมมัด

 

Answering Islam Thailand, 1999 - 2006. All rights reserved.